คุณภาพอากาศใน Santa Barbara

*แปลโดยใช้การแปลด้วยเครื่อง

คุณภาพอากาศใน Santa Barbara เป็นอย่างไร?

Santa Barbara ตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและเทือกเขา Santa Ynez เพียง 90 ไมล์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Los Angeles ซึ่งเป็นเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา สถานที่ตั้งส่วนใหญ่กำหนดสภาพภูมิอากาศและอุตุนิยมวิทยาของพื้นที่ซึ่งมีอิทธิพลต่อวิธีการขนส่งและกระจายการปล่อยมลพิษ การทำความเข้าใจผลกระทบเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการทำความเข้าใจคุณภาพอากาศของซานตาบาร์บาราและความท้าทายในการลดมลพิษ

ซานตาบาร์บาราเคาน์ตี้ถูกอธิบายว่าเป็น "ภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน" เนื่องจากมีอากาศอบอุ่นและแห้ง ฤดูร้อนและฤดูหนาวที่เย็นและชื้น ¹ พายุฝนไม่บ่อยนักในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายน สภาพอากาศที่แห้งแล้งในช่วงหลายเดือนนี้มักส่งผลให้ระดับมลพิษทางอากาศสูงขึ้นเนื่องจากไม่มีฝนตกลงมาเพื่อลดมลพิษหรือความชื้นเพื่อช่วยในการตกตะกอนของมลพิษ

มลพิษที่เป็นปัญหาอย่างหนึ่งสำหรับซานตาบาร์บาราคือโอโซนซึ่งเป็นมลพิษทางก๊าซที่ระคายเคืองอย่างมากซึ่งมักเรียกกันว่า "หมอกควัน" ซึ่งแตกต่างจากมลพิษตามเกณฑ์อื่น ๆ ที่ตรวจวัดโดยสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (EPA) โอโซนส่วนใหญ่เกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศซึ่งต่างจากมลพิษที่ปล่อยออกมาจากแหล่งพื้นดินโดยตรง สารมลพิษที่เป็นสารตั้งต้นเช่นไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO₂) และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) รวมถึงอุณหภูมิที่สูงกว่า 84 องศาจะต้องมีโอโซนก่อตัวขึ้นเนื่องจากปฏิกิริยาทางเคมีที่เกิดขึ้นกับความร้อนและสารมลพิษอื่น ๆ เท่านั้น ซานตาบาร์บารามีประสบการณ์ประมาณ 30 ² วันต่อปีซึ่งอุณหภูมิเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการก่อตัวของโอโซนฤดูโอโซนสูงสุดจะเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงที่อุณหภูมิร้อนที่สุดและมีอากาศแห้งที่สุด

ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมาระดับโอโซนลดลงอย่างมาก เมื่อการเฝ้าติดตามเริ่มต้นด้วยระยะเวลาการเฝ้าติดตามในปี 2539 ถึง พ.ศ. 2541 เขตซานตาบาร์บาราพบว่ามีโอโซนที่ไม่ดีต่อสุขภาพ 55.5 วันต่อปีซึ่งเกินกว่าค่าเผื่อของรัฐบาลกลางที่ 3.2 วัน ³ ในช่วงการตรวจติดตามปี 2558 ถึง 2560 ซานตาบาร์บาราได้พบกับมาตรฐานโอโซนเป็นครั้งแรก 2.3 วันที่โอโซนไม่ดีต่อสุขภาพ เมืองนี้ได้รับความสำเร็จอีกครั้งในช่วงการเฝ้าติดตามปี 2559 ถึงปี 2561 โดยมี 1.7 วันที่ไม่แข็งแรง

ในขณะที่ลอสแองเจลิสเคาน์ตี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาสำหรับวันที่มีโอโซนสูง แต่ภูมิภาคซานตามาเรีย - ซานตาบาร์บารากลับมีอาการดีขึ้นอย่างมากโดยอยู่ในอันดับที่ 93 จากการศึกษาในเขตเมือง 228 แห่งเดียวกัน

ในปี 2558 EPA ได้ประกาศแผนการลดมาตรฐานคุณภาพอากาศแวดล้อมแห่งชาติ (NAAQS) ในปัจจุบันให้อยู่ในช่วง 70 ppb ถึง 65 ppb มีการตัดสินใจมาตรฐาน 70 ppb แม้ว่าการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่ามาตรฐานที่ต่ำกว่านี้สามารถลดผลข้างเคียงในประชาชนทั่วไปได้ หากมาตรฐานถูกลดลงไปอีกถึง 65 ppb สถานที่ตรวจวัดคุณภาพอากาศหลายแห่งในซานตาบาร์บาราจะอยู่ที่หรือสูงกว่ามาตรฐาน

มลพิษอนุภาคละเอียดหรือ PM2.5 เป็นมลพิษที่ก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงในซานตาบาร์บารา PM2.5 อธิบายอนุภาคในอากาศโดยรอบที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5 ไมครอนหรือเล็กกว่า อนุภาคเหล่านี้อาจทำจากขี้เถ้าฝุ่นสิ่งสกปรกสารเคมีหรือแม้แต่ไวรัสและแบคทีเรียเนื่องจากมีการแบ่งประเภทตามขนาดแทนที่จะเป็นองค์ประกอบ เมื่อหายใจเข้าไปอนุภาคละเอียดเหล่านี้สามารถซึมลึกเข้าไปในปอดบางครั้งไปถึงระบบไหลเวียนโลหิตและก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพหลายอย่างในอวัยวะต่างๆของร่างกาย

ระดับ PM2.5 ประจำปีของซานตาบาร์บาราในปี 2018 และ 2019 อยู่ที่ 8.7 μg / m³ และ 8.4 μg / m³ ตามลำดับจึงเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลกลางที่กำหนดไว้ที่ 12 μg / m³ เช่นเดียวกับเป้าหมายขององค์การอนามัยโลกที่เข้มงวดมากขึ้นซึ่งกำหนดไว้ที่ 10 μg / m³

แม้ค่าเฉลี่ย PM2.5 ต่อปีจะอยู่ในช่วง "ดี" แต่การดู PM2.5 ในระยะสั้นทั่วเมืองก็เผยให้เห็นเรื่องราวที่แตกต่างออกไป ตั้งแต่ปี 2559 มลพิษ PM2.5 ระยะสั้น (หรือมลพิษ PM2.5 ตลอด 24 ชั่วโมง) เพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่ปี 2009 ถึงปี 2016 ซานตาบาร์บาร่าพบ PM2.5 ที่ไม่แข็งแรงเป็นศูนย์ อย่างไรก็ตามในช่วงการเฝ้าติดตามในปี 2558 ถึง 2560 จำนวน PM2.5 ที่ไม่ดีต่อสุขภาพเพิ่มขึ้นเป็น 6.2 วันและเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงการเฝ้าติดตามปี 2559-2561 เป็น 6.7

การเพิ่มขึ้นของ PM2.5 ในระยะสั้นเหล่านี้ในซานตาบาร์บาราเกิดขึ้นพร้อมกับฤดูไฟป่าที่ยืดเยื้อและรุนแรงมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ขับเคลื่อนโดยมนุษย์เป็นสิ่งที่น่าตำหนิเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นและแห้งแล้งทำให้ฤดูไฟป่ายาวนานขึ้น

ฤดูไฟป่าปี 2020 ของแคลิฟอร์เนียถือเป็นฤดูกาลที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ของรัฐทำให้ระดับมลพิษสูงเกินช่วงปกติ ในเดือนกันยายนดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ของซานตาบาราบาราพบว่าอากาศ 5 วันติดต่อกันถือว่า "ไม่แข็งแรงสำหรับกลุ่มที่อ่อนไหว" หรือแย่กว่านั้นในขณะที่ 20 จาก 30 วันในเดือนนั้นเกินมาตรฐาน "ดี"

ภูมิศาสตร์ของซานตาบาร์บาราบนชายฝั่งใกล้เทือกเขาซานตาเยเนซที่สูงชันก่อให้เกิดเหตุการณ์สภาพอากาศที่มีมลพิษซึ่งเรียกว่า "การผกผันทางทะเล" โดยปกติอากาศจะเย็นลงและมีความหนาแน่นน้อยลงเมื่อระดับความสูงเพิ่มขึ้น ในระหว่างการผกผันทางทะเลมหาสมุทรจะทำให้อากาศพื้นผิวเย็นลงจนมีอุณหภูมิต่ำกว่าอากาศที่อยู่ด้านบนโดยตรง เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้อากาศที่อุ่นขึ้นจะยับยั้งชั้นอากาศเย็นเช่นฝาปิดเพื่อป้องกันการกระจายของมลพิษตามปกติ ผลกระทบนี้ทำให้เกิดหมอกและหมอกควันลอยต่ำ

ฝนซานตาบาร์บาร่าจะช่วยคุณภาพอากาศจากไฟไหม้หรือไม่?

ฝนสามารถปรับปรุงคุณภาพอากาศในซานตาบาร์บารา อย่างไรก็ตามผลของมันมักจะถูกประเมินสูงเกินไป ปัจจัยหลายประการเป็นตัวกำหนดว่าฝนมีประสิทธิภาพเพียงใดในการเปลี่ยนแปลงระดับมลพิษรวมถึงขนาดของละอองฝนขนาดและความเข้มข้นของสารมลพิษและระดับความสูงของเมฆ

เมื่อฝนตกลงมาจะดึงดูดอนุภาคเล็ก ๆ ในอากาศและอนุภาคของก๊าซเข้าด้วยกันในกระบวนการที่เรียกว่าการแข็งตัว ยิ่งอนุภาคมีขนาดใหญ่เท่าใดฝนก็ยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น

ฝนเบาบางแทบจะไม่ลดระดับ PM2.5 และลดระดับ PM10 ได้น้อยกว่า5⁴ เปอร์เซ็นต์ขณะที่ฝนตกหนักพบว่าสามารถลดอนุภาค PM2.5 ได้โดยเฉลี่ย 8.7 เปอร์เซ็นต์และอนุภาค PM10 ได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญกว่าฝนในซานตาบาร์บาราระดับมลพิษทางอากาศคือลม ในขณะที่ผู้คนมักมองว่าท้องฟ้าเป็นสีฟ้าหลังจากพายุฝน แต่ลมแรงหรืออากาศที่เคลื่อนตัวเป็นปรากฏการณ์การล้างมลพิษที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ใช้การพยากรณ์คุณภาพอากาศ Santa Barbara ที่ด้านบนของหน้านี้เพื่อดูว่ามีการคาดการณ์สภาพลมและฝนเมื่อใดและคาดว่าจะลดระดับ AQI ของ Santa Barbara หรือไม่

เมื่อใดคุณภาพอากาศจะดีขึ้นใน Santa Barbara?

คุณภาพอากาศเฉลี่ยรายปีในซานตาบาร์บาราอยู่ในช่วง“ ดี” ซึ่งแสดงว่าโดยทั่วไปมีอากาศที่ปลอดภัยสำหรับการหายใจ การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของมลพิษทางอากาศที่ไม่ดีต่อสุขภาพมักเกิดขึ้นในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงเมื่อสภาพอากาศแห้งและอบอุ่นส่งผลให้โอโซนสูงขึ้นและมลพิษอนุภาคละเอียด (PM2.5)

ยังคงต้องมีการปรับปรุงเพื่อลดความเสี่ยงของผู้อยู่อาศัยต่อผลกระทบต่อสุขภาพ ตามรายงาน "State of the Air" ปี 2020 ซานตาบาร์บาร่าเคาน์ตี้ได้รับการจัดระดับเป็น "C" สำหรับวันที่มีโอโซนสูงและ "F" สำหรับวันที่มี PM2.5 สูง ซานตาบาร์บาร่ามีมลพิษทางอากาศที่ไม่ดีต่อสุขภาพเฉลี่ย 8.4 วันต่อปี

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะพิสูจน์ความท้าทายในการรักษาอากาศที่บริสุทธิ์ เมื่ออุณหภูมิอุ่นขึ้นไฟป่าจะเกิดบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เกิดมลพิษ PM2.5 เพิ่มขึ้นในขณะที่อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจะเร่งการก่อตัวของโอโซนและยืดฤดูโอโซน

เพื่อที่จะเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้การปล่อยก๊าซจะต้องลดลงอีก แหล่งปล่อยมลพิษที่ใหญ่ที่สุดและอาจจัดการได้ง่ายที่สุดคือมลพิษที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง ยานยนต์เช่นรถยนต์และรถบรรทุกมีการปล่อยมลพิษมากกว่าครึ่งหนึ่งของเมืองทั้งหมด การจูงใจและส่งเสริมยานยนต์ที่ปล่อยมลพิษต่ำและเป็นศูนย์เช่นรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดเป็นหนึ่งในความสำคัญอันดับต้น ๆ ของรัฐ กาวินนิวซัมผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียลงนามในคำสั่งบริหารในปี 2563 เรียกร้องให้มีการขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดเป็นศูนย์ภายในปี 2578 โดยมีเป้าหมายเพื่อความเป็นกลางของคาร์บอนทั้งหมดในรัฐภายในปี 2588.⁵ นอกเหนือจากการขนส่งแล้วการจัดหาพลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นยังให้โอกาสอีกครั้งสำหรับการทำความสะอาด อากาศ.

ซานตาบาร์บาร่ามีควันจากไฟหรือไม่?

ในปี 2020 ไฟป่าครั้งประวัติศาสตร์ที่ลุกไหม้ในแคลิฟอร์เนียโอเรกอนและวอชิงตันได้สร้างท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยมลพิษในนิวยอร์กซิตี้นิวยอร์กและพอร์ตแลนด์รัฐเมนไปทั่วประเทศ ⁶ ข้อมูลจากดาวเทียมได้ยืนยันว่าอนุภาคควันบางส่วนได้ทำให้มันข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกขณะเดินทาง ไกลถึงเนเธอร์แลนด์กว่า 5,000 ไมล์

ในขณะที่ควันมักมีแนวโน้มที่จะเดินทางไปไกลหลายร้อยไมล์ แต่ควันทั้งหมดไม่สามารถเดินทางไกลได้ เหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในเดือนกันยายน 2020 ได้รับประโยชน์จากสองปัจจัย ประการแรกควันไฟติดอยู่บนกระแสเจ็ตโพลาร์จากตะวันตกไปตะวันออกซึ่งเคลื่อนตัวด้วยความเร็วประมาณ 110 ไมล์ต่อชั่วโมง ประการที่สองไฟเหล่านี้ทำลายสถิติขนาดของมันเพิ่มความหนาแน่นของควันและปล่อยให้ความเข้มข้นมีอยู่ในระดับที่สูงขึ้นในสถานที่ที่ไกลออกไป

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังทำให้ไฟใหญ่ขึ้นซึ่งหมายความว่าควันสามารถเดินทางได้ไกลขึ้น เนื่องจาก“ สภาวะปกติใหม่” รวมถึงฤดูกาลที่มีไฟป่าที่ยาวนานและรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของมลพิษ PM2.5 ในระยะสั้นจึงเกิดขึ้นบ่อยขึ้น

มลพิษทั้งหมดไม่สามารถมองเห็นได้ ใช้แผนที่ความร้อนมลพิษทางอากาศในซานตาบาร์บาราของ IQAir เพื่อค้นหาการเกิดเพลิงไหม้ระบุรูปแบบลมและทำความเข้าใจว่าคุณภาพอากาศในภูมิภาคได้รับผลกระทบแบบเรียลไทม์อย่างไร ติดตามคุณภาพอากาศที่ถ่ายทอดสดใน Santa Barbara เพื่อให้ทันสมัยอยู่เสมอแม้ว่าจะมองไม่เห็นมลพิษก็ตาม การดำเนินการเมื่อระดับมลพิษสูงสามารถลดความเสี่ยงของผลเสียต่อสุขภาพได้อย่างมาก

คุณภาพอากาศใน Santa Barbara เริ่มดีขึ้นหรือไม่?

เช่นเดียวกับในเมืองส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกาทศวรรษที่ผ่านมาได้เห็นการปรับปรุงคุณภาพอากาศในซานตาบาร์บาราทั้ง PM2.5 และมลพิษโอโซนประจำปี การปรับปรุงเหล่านี้เกิดขึ้นท่ามกลางยานยนต์ที่สะอาดและประหยัดน้ำมันมากขึ้นและขีด จำกัด การปล่อยมลพิษทางอุตสาหกรรมที่เข้มงวดมากขึ้น

แม้จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในระยะยาว แต่หลายปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่ามลพิษ PM2.5 ในระยะสั้นแย่ลง

คุณภาพอากาศในซานตาบาร์บาราอยู่ในระดับที่สามารถรองรับ PM2.5 ในระยะสั้นได้มานานแล้ว ในความเป็นจริงในช่วง 7 ปีตั้งแต่ปี 2009 ถึงปี 2016 ซานตาบาร์บาร่าพบว่ามี PM2.5 ที่ไม่แข็งแรงเป็นศูนย์ อย่างไรก็ตามเมื่อเร็ว ๆ นี้ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 6.2 วันต่อปีในช่วงปี 2558 ถึงปี 2560 และ 6.7 วันต่อปีในช่วงปี 2559 ถึง 2561

PM2.5 ที่ไม่แข็งแรงบ่อยขึ้นของซานตาบาร์บาร่าเป็นผลมาจากไฟป่าเป็นหลัก ในปี 2019 (ปีที่มีไฟป่าค่อนข้างรุนแรง) เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่มีมลพิษมากที่สุดของปีโดยมีค่าเฉลี่ยความเข้มข้นของ PM2.5 อยู่ที่ 15.1 ไมโครกรัม / ลบ.ม. ในช่วงเดือนนี้ Cave Fire ได้เผาผลาญพื้นที่กว่า 4,000 เอเคอร์ใน Santa Ynez Mountains ของซานตาบาร์บาร่า ⁷

การจัดการภัยคุกคามจากไฟป่าในสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นได้กระตุ้นให้มีการดำเนินการสำหรับ "ไฟที่กำหนดไว้" ซึ่งเป็นการปฏิบัติ (รับผิดชอบ) ในการเผาพุ่มไม้ป่าเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้ในอนาคต กรมป่าไม้และการป้องกันอัคคีภัยของแคลิฟอร์เนีย (CAL FIRE) คาดการณ์ว่าควรเผา 8-10 ล้านเอเคอร์ในรัฐ ⁸ ปัจจุบันกรมกำลังเคลียร์พื้นที่หนึ่งล้านเอเคอร์ต่อปีเพื่อพยายามบรรลุเป้าหมายนี้ จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายปีก่อนที่สถานการณ์จะอยู่ภายใต้การควบคุม ในระหว่างนี้ฤดูไฟป่าของแคลิฟอร์เนียมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดหมอกควันในซานตาบาร์บาร่าในอนาคตอันใกล้

+ Article Resources

[1] Environmental Protection Agency (EPA). (2010). Network assessment of the Santa Barbara Air Pollution Control District ambient air monitoring network.
[2] Current Results. (2020). Santa Barbara temperatures: averages by month.
[3] American Lung Association. (2020). State of the air – 2020.
[4] Feng X, et al. (2011). Influence of different weather events on concentrations of particulate matter with different sizes in Lanzhou, China. Journal of Environmental Sciences.
DOI:10.1016/S1001-0742(11)60807-3.
[5] City of Santa Barbara. (2020, September 29). Santa Barbara installs 30 new electric vehicle charging stations.
[6] Neilson S. (2020, September 15). Smoke from the West Coast wildfires is causing hazy skies in New York and even reaching as far as the Netherlands. Insider.
[7] Bryson TD. (2019, November 26). Cave Fire in Santa Barbara County threatens homes and forces evacuations. The New York Times.
[8] Helvarg D. (2019, December 20). How will California prevent more mega-wildfire disasters? National Geographic.